เนื่องจากเมื่อวานเดินทางมาก เหนื่อย วันนี้ก็เลยเริ่มต้นอย่างเนือย ๆ ... ตื่นเกือบ 8 โมงเช้า โชคดีที่ตลาดเช้ายังไม่วายแต่ก็โหรงเหรงเต็มที ... เดินหาของกินได้ปลาแรดทอดมาหนึ่งตัว กินสลับกับปาท่องโก๋แกล้มกับกาแฟสด ก็อร่อยดี ... กินเสร็จก็ข้ามฝั่งไปไหว้พระที่วัดโบสถ์
ที่วัดเจอหลวงพี่รูปหนึ่ง เห็นแกยืนเล่าเรื่องภาพจิตรกรรมฝาผนังให้นักท่องเที่ยวฟังอยู่ เราก็แอบเข้าไปฟังบ้าง หลวงพี่เลยชวนให้ไปลองนั่งเรือล่องแม่น้ำสะแกกรังดู ค่าเรือก็ไม่แพงและไหนไหนเราก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วก็เลยลอง
บนเรือ นอกจากจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวแพแล้ว พี่คนขับเรือก็บรรยายเรื่องราวของเมืองอุทัยฯไปด้วย ปล่อยมุกไป ด้วยสนุกดี ระยะทางก็ไม่ใกล้ไม่ไกลนั่งได้เพลิน ๆ ก่อนจบเรือไปแวะแพปลากรอบของป้าแต๋ว แต่เมื่อเช้าเราซื้อน้ำพริกกับปลาป่นของป้าเขามาแล้วบนตลาดก็เลยไม่รู้จะขึ้นแพไปซื้ออะไร เลยให้เรือวนกลับ ถึงไม่ขึ้น ป้า ๆ เขาก็ยังยิ้มและโบกมือให้อย่างจริงใจ น่ารักจริง ๆ
ล่องเรือเสร็จยังไม่ทันจะเที่ยงดี ก็หิวซะแล้ว ข้ามมาฝั่งตลาด เจอร้านบะหมี่ร้านหนึ่งตรงตีนสะพานชื่อร้าน 'เจ้เน้ย' เห็นแว็บ ๆ ว่าแม่ค้าลวกเส้นน่ารักดี หันไปจะชวนแม่ลิงก็เห็นยืนจ้องเส้นบะหมี่หน้าตู้ ลูกลิงก็กำลังจะเดินเข้าไปเล่นกับลูกแมวข้างใต้ตู้ลวกบะหมี่ ก็เลยรวม ๆ กันเข้าร้านแบบงง ๆ
สรุป บะหมี่อร่อยดี เส้นนุ่มหอม น่าจะมีส่วนผสมของไข่เยอะ ปรุงรสแบบบะหมี่ไทยโบราณ สำหรับผมรสชาติแปลกแต่อร่อยดี กินเสร็จก็กลับไปเก็บของที่โรงแรมแล้วก็กลับกรุงเทพฯ
ถึงจะไม่เป็นไปตามแผนทั้งหมดมีเรื่องผิดพลาดหลายอย่าง แต่ทริปขึ้นเขาคราวนี้ก็สนุกดี ได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ ได้เรียนรู้ว่าจังหวะและเวลาเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าเรายืดหยุ่นหน่อยก็จะหาโอกาสและจังหวะใหม่ได้เสมอ ... แล้วจะกลับไปอีก