





เพราะตอนเด็ก ๆ เคยถูกหมาจรไล่กวดโดยไม่มีความผิดอะไรเลย หลายต่อหลายครั้ง ... ผมเลยตั้งปณิธานไว้ว่า ถ้าเกิดโลกนี้เกิดมีสงครามสัตว์โลกระหว่างหมากับแมว หรือหมากับตัวอะไรก็ตาม ผมยินดีที่จะอยู่คนละฝั่งกับพวกมัน
แต่ถึงจะไม่ถูกชะตา ไม่กินเส้นกันชนาดนั้น ในชีวิตนี้ผมก็ยังอุส่าห์คุ้นเคยกับหมาชื่อ "มอม" ถึงสองตัว
มอม (๑)
เป็นหมาพันธุ์ทาง เหม็น ๆ ซน ๆ สีดำ รู้จักกันสมัยผมอยู่ประถม มาอยู่ที่บ้านได้อย่างไรใครเอามาก็จำไม่ได้ จำได้วีรกรรมของมัน ... ตั้งแต่เสียงโหยหวนน่ารำคาญของลูกหมาหย่านม, รูหมาลอดที่ประตูมุ้งลวด, รองเท้าหน้งขาดวิ่น, คราบฉี่, รอยอึ ฯลฯ มันซนจนกระทั่งวิ่งออกไปโดนรถทับขาหักหน้าบ้าน และเป็นผมเองที่เป็นคนพามันไปเข้าเฝือก และคอยดูแลพยาบาล (แบบเด็ก ๆ ) ประสบการณ์เฉียดตายไม่ได้ช่วยให้มันสงบลงเลย พอผ่าเฝือก เจ้ามอม (๑) อยู่กับเราอีกสักพัก ... แล้วก็หายไป ไม่รู้ว่าหนีออกจากบ้าน หรือโดนรถชน ... หรือทั้งสองอย่าง ก็ไม่รู้
มอม (๒)
ก็พันธุ์ทางเหมือนกัน (จริง ๆ หมาที่ผมรู้จักก็พันธุ์ทางทั้งนั้นแหละ) สีน้ำตาล เป็นหมาของที่บ้านแฟนผม รู้จักกันตามคำพังเพย "Love me love my dog" ตั้งแต่มันยังเป็นลูกหมาตัวเล็ก ๆ จนโตเป็นหมาตอนตัวกลม ๆ ส่วนผมจากแฟนก็แต่งงานมีลูก มันก็ยังเล่นกับลูกสาวผม เจ้ามอม (๒) นี่ค่อนข้างเรียบร้อย สุขุม ไม่โวยวาย แต่ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ถ้าใครแกล้งหรือหยอกอะไรไม่เข้าท่า ไม่ถูกใจ ก็อาจโดนมันงับเอาง่าย ๆ ... (คนในบ้านเคยโดนแล้วทั้งนั้น) ซึ่งผมไม่เคยโดนเลยสักครั้ง และที่น่าภูมิใจเข้าไปอีกคือ ผมเป็นคนแปลกหน้า (นาน ๆ มาที) เพียงคนเดียวที่ลูบหัวมันแล้วไม่มีปัญหา ...
คิดว่าด้วยนิสัยเรียบ ๆ ของมันนี่แหละ ทำให้เจ้ามอม (๒) อยู่กับเรานาน ... จน ขนหงอก, ตาฟาง และจากไปอย่างสงบ ... อยู่จำได้ว่าตอนได้รับข่าวว่ามันตายแล้ว ลูกสาวผมถึงกับน้ำตาร่วง
ไม่รู้ว่า "มอม" ที่เป็นชื่อเรียกหมา กับ "มอม" สัตว์ประหลาดครึ่งหมาครึ่งสิงห์ ที่เฝ้าหน้าโบสถ์หน้าวัด มีที่มาเดียวกันรึปล่าว ... อาจจะไม่ แต่บรรดามอม มอม มอม ที่ผมเจอที่หลวงพระบางนี่ ทำให้ผมคิดถึงเจ้ามอมทั้งสองตัวนั่นจัง
![]() |
ของแถมอีกเช่นเคย เป็นรูป sketch ฝีมือมะนาว ครับ |