18/06/2567

บันทึกของกินจุ๊บจิ๊บของผมที่ตรัง

ตั้งใจว่าทริปนี้จะเป็นทริปตามใจปากโดยแท้ นั่งรถไฟไปตรัง ตะลอนกินไปเรื่อย บนรถ ในเมือง ตามตลาด คาเฟ่ ติ๋มซำ โรตี ข้าวแกง ข้าวต้ม ... ฯลฯ ทำตัวให้เหมือนกับคนตรังที่เขาลือกันว่ากินกันวันละ 9 มื้อ ...

แต่ก็ต้องยอมแพ้ กินได้ไม่กี่อย่าง ไว้โอกาสหน้าจะฟิตร่างกายให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นแล้วกลับไปแก้มือ ... นะ

ผมและครอบครัวเดินทางด้วยรถไฟด่วนขบวน 83 กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตรัง เพราะเป็นสถานีใหม่ ไม่คุ้นเคย ก็เลยต้องรีบไปก่อนตั้งแต่บ่าย 4 โมง จะได้มีเวลาเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตบนรถไฟ 15 ชั่วโมง

เตรียมแล้ว พร้อมแล้ว ... ใกล้จะเบื่อแล้ว 18:50 น. เป๊ะๆ ก็ได้เวลาออกเดินทาง

ขึ้นรถไฟเที่ยวนี้จะต้องลองกินก๋วยเตี๋ยวรถไฟให้ได้ ถึงสถานีศาลายาก็มีแม่ค้าหิ้วตะกร้ามาเดินยั่ว มีข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขนมหม้อแกง กุนเชียง และก็ก๋วยเตี๋ยวแห้งที่รอคอย เลยจัดไป 1 ห่อ แบ่งกันชิมกับลูกลิงได้คนละคำสองคำ ... อร่อยดี แต่คิดว่าคงดีกว่านี้ถ้าได้กิน "คนเดียว!" 2 ห่อ 😅

กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ก็ได้เวลาพนักงานมาปรับเบาะ ปูเตียง นั่งด้วยกันลำบากก็แยกกันนอนดีกว่า ที่นั่งใครที่นั่งมัน พรุ่งนี้เจอกัน

พระอาทิตย์ขึ้นที่สถานีนาสาร สุราษฎร์ธานี แต่กว่าจะรู้สึกว่าเช้าแล้วจริงๆ ก็เมื่อรถไฟถึงทุ่งสง ที่นี่สถานีใหญ่ รถจอดนาน ผู้โดยสารขึ้นลงเยอะ พ่อค้าแม่ค้าก็หาบของกินขึ้นมาขายกันเยอะ ... แน่นอนมีการค้าก็ต้องมีเหยื่อทางการตลาด 😅 ลูกลิงซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดสีแดงๆมากิน บอกเค็มๆ มีแต่เค็ม 🤣 ส่วนแม่ลิงก็ซื้อข้าวต้มใบกะพ้อมา 1 พวง ไม่กินแล้วก็เอามาให้ผม 🤨 คงเห็นว่าเป็นของแปลก?

รถไฟมาถึงตรังตามเวลา 8:50 น. (ตรงตามเวลาจริงๆ ไม่ใช่มุกที่ว่า เวลามาก่อนแล้วรถค่อยตามมา ฮ่า) เรายืนเงอะงะ เกะกะ ดูรถไฟ ดูคนกันสักพักที่สถานี แล้วตัดสินใจรีบเดินไปที่พักที่จองไว้ ถึงจะยังเช็คอินไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็จะได้ฝากกระเป๋า และเขาคงมีห้องน้ำให้เราล้างหน้าล้างตาบ้างแหละ ...

ระหว่างทางมีร้านขนมครก พ่อค้ากำลังหยอด กำลังแคะกันอย่างเมามัน ส่งกลิ่นหวานๆ เกรียมๆ กลิ่นกะทิหอมฟุ้ง ก็เกิดเหยื่อทางการตลาดขึ้นมาอีกราย ... 🤣

ฝากกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินข้ามถนนไปเริ่มมื้อเช้าอย่างเป็นทางการที่ร้านข้าวแกงหน้าโรงแรม (ซึ่งอร่อยมาก แต่จะอุบไว้เล่าตอนต่อไปนะครับ) กินเสร็จก็ไปเดินเล่นในเมือง กะว่าจะหาคาเฟ่นั่ง เดินดูตึก ถ่ายรูปคู่กราฟิตี้ ดูนู่นนี่นั่นไปตามเรื่อง แต่แดดแรงมหาโหดเหมือนโกรธกัน เผาเอาจนหมดสนุก ฝืนทนเดินอยู่พักใหญ่ให้ได้เวลาเช็คอิน ... คิดว่ากลับไปอาบน้ำนอนที่โรงแรมดีกว่า 🥵🥵🥵

สลบไปนาน กว่าจะฟื้นอีกทีเกือบจะ 6 โมงเย็นเพราะหิว ตอนนี้แดดคงไปหมดแล้ว อากาศด้านนอกน่าจะเย็นสบายพอเดินได้

หาข้อมูลมาว่า ในเมืองตรังจะมีแหล่งกินตอนค่ำอยู่ 2 แห่ง ที่แรกคือ "ตลาดเซ็นเตอร์พอยท์" อยู่ในซอยรื่นรมย์แถวๆศาลากลางจังหวัดตรัง ใกล้วงเวียนพะยูน ห่างจากที่พักไปประมาณ 1 กิโล เปิดวันธรรมดา (หรือทุกวันไม่แน่ใจ) และวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีถนนคนเดินที่หน้าสถานีรถไฟ อยู่ใกล้ที่พักเราไม่เกิน 200 เมตร ... ซึ่งวันที่เราไปเป็นวันดี วันพฤหัสบดี เลยได้ออกกำลังกายแหะๆ

ขากลับ เดินมาทางถนนเพชรเกษม ผ่านสถานีตำรวจ ผ่านศาล ผ่านศรีตรังต้นใหญ่กำลังออกดอกแต่ก็มืดเสียแล้ว มองไม่เห็น ... เราเดินมาเรื่อยๆจนถึงตลาดสดเทศบาล ทะลุเข้าซอยมืดๆ ไปโผล่หลังร้านโกปี๊สมบัติเฉยเลย

สมเป็นร้านชื่อดังประจำเมืองตรัง คนแน่นเอี้ยด แต่โชคดี เราจังหวะดีโผล่มาตอนโต๊ะว่างพอดี เลยได้ลองหลายอย่างตามแบบที่ YouTuber เขารีวิวกัน หมี่ฮุ้น โจ๊ก ปาท่องโก๋ ขนมจีบติ๋มซำนึ่งทอดสารพัด ...ฯลฯ รวมๆก็ไม่ได้พิเศษเท่าที่เห็นในรีวิว แต่กินได้ อร่อยดี (ขอสารภาพตามตรง ว่าไม่ชอบน้ำจิ้มที่เขาเรียกว่า กำเจือง ค่อมเจือง หรือส้มเจือง ... เลย สังขยาที่ใช้จิ้มปาท่องโก๋ก็หวานมันเข้มข้นเกินไปสำหรับผม T_T) กินเสร็จก็รีบกลับที่พัก รีบนอนเอาแรงเพราะพรุ่งนี้จะไปเที่ยวเกาะกระดาน ... เย้

วันที่เที่ยวเกาะกระดานกับวันก่อนกลับ พวกเราไม่ได้กินอะไรจุ๊บจิ๊บเรื่อยเปื่อยเลย เหมือนความอยากอาหารมันระเหยหมดไปกับไอแดด ส่วนใหญ่จะกินเป็นมื้อ ... เพราะฉะนั้นจะขอเก็บไว้เล่าตอนถัดไปนะครับ

ตัดมาบนรถไฟขากลับเลยแล้วกันครับ 😅 บนรถผมเจอของกินน่าประทับใจ สมควรวาดรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกอัน

ถ้าเทียบกัน รู้สึกว่าการขายของบนรถไฟสมัยนี้เงียบเหงาและจืดชืดกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ไม่มีอีกแล้วไอ้ประเภท "จับ ไข่ แข็ง ปั๋ง~" หรือ "หอม อม ดม หม่อง ~" (หรือเป็นเพราะนั่งรถนอนชั้น 2 ก็ไม่แน่ใจ) แต่ที่สถานีทุ่งสงผมเจอลุงคนหนึ่ง ท่าทางอารมณ์ดี สุภาพ บุคลิกคล้ายๆลุงสีเทาในเรื่องมหา'ลัยเหมืองแร่ ขึ้นรถมาแล้วร้องขาย

"ยาโหนมมม...ไมคร้าบ~ ..
หมวกก็มีน่ะคร้าบ ใส่แล้วเสียงดี หมวกมี ยาหนมก็มีน่ะคร้าบ~"
(ทำนองเพลง สมหวังนะครับ ของ ก็อต จักรพันธ์)

สรุป ลุงแกขายยาหนมกับหมวกใบมะพร้าว ... "ยาหนม" ที่ว่าก็คือกาละแมนั่นแหละ ลุงว่าเป็นขนมประเภทเดียวกัน ผมชิมก็กาละแม หลับตาชิมก็กาละแม😅 ส่วนหมวกก็สานเอง สานเล่นๆ ขายเล่นๆแก้เซ็ง ลุงแกว่างั้น

ขายได้แล้วก็ เดินร้องขายต่อตู้ถัดไป เหมือนเสียงจะดังกังวานขี้นนิดนึง ...

ขากลับแกไม่ร้องขายของแล้ว แต่ร้องเป็นเพลงเลย ตอนเดินผ่านที่นั่งผม ลุงแกบอก "ขอบคุณนะลูก" แล้วยิ้ม ผมก็ยิ้มตอบ 😊

ยาหนมเก่าหน่อย แต่ก็อร่อยดีน่ะคร้าบบบ~ ผมฮัมเพลงตอบในใจ
... แหม ทำนองติดหูจังแฮะ