09/06/2557

สุโขไกด์ ┊8┊วัดนอกกำแพงเมือง นอกกระแส?

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของผมแล้วที่สุโขทัย เลยตั้งใจว่าจะตระเวนเก็บวัดรอบๆกำแพงเมืองเก่าให้ครบ จะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจ ... แต่เท่าที่ไปมา ผมแปลกใจที่ไม่ค่อยมีใครสนใจวัดบริเวณนี้เลย จะมีก็แต่ พวกแบ็คแพ็กเกอร์หลงๆมา กับพวกทัวร์รถตู้อีกนิดหน่อย มาเป็นระลอกๆ แต่ถ้าเทียบกับที่ไฮไลท์อย่าง วัดมหาธาตุ กับวัดศรีชุม แล้วนับว่าเงียบเหงามาก

คงเพราะ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน? แต่ละวัดมีอะไร? สำคัญแค่ไหน? ไปแล้วจะยังไง? ทำอะไรได้บ้าง? 
ข้าวในนาหน้าวัดเจดีย์สี่ห้อง
รวงข้าวใหม่ ๆ ยามเช้า ที่หน้าวัดเจดีย์สี่ห้อง

จะเริ่มอย่างไร? ... ผมก็อยากจะแนะนำว่าให้แบ่งวัดออกเป็นกลุ่มๆ ตามทิศกำแพงเมือง  ด้านทิศใต้จะเป็นกลุ่มวัดของพระสังฆราช และพระเถระจากกำแพงเพชร  ด้านทิศเหนือที่วัดพระพายหลวงเป็นเขตเมืองสุโขทัยในยุคแรกเริ่ม  ด้านตะวันตกเป็นเขตอรัญญิก (วัดป่า)  ส่วนทางตะวันออกเป็นวัดใหม่ที่สร้างขึ้นในสมัยที่สุโขทัยตกอยู่ในอำนาจของอยุธยาแล้ว แต่ละกลุ่มไม่ไกลกันเท่าไหร่ สามารถขับรถวนเที่ยวให้จบภายในวันเดียวได้ (แต่ถ้าอยากมีประสบการณ์แอดเวนเจอร์หน่อยๆ คิดจะเดินชมกลุ่มวัดป่าบนเขาอาจต้องใช้เวลามากกว่านั้นหน่อย)

ตัวอย่างเส้นทางที่ผมลองทำมาแล้ว สะดวกดี คือ เริ่มจากวัดนอกกำแพงเมืองทางทิศใต้ก่อน เพราะอยู่ใกล้ที่พัก ... จากนั้นก็ผ่านเข้าเมืองทางประตูนะโมทางทิศใต้ ไปดูโบราณสถานแบบขอมในเมือง ซึ่งก็คือ วัดศรีสวาย ศาลตาผาแดง ... แล้วเลยไปวัดพระพายหลวงแล้วก็วัดศรีชุมทางเหนือ เป็นอันหมดรอบเช้า ... หลังจากหาก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยอร่อยๆในตัวจังหวัดกิน ไหว้ศาลแม่ย่า และกลับมาเข้าไปหลบแดดที่พิพิธภัณฑ์สถานฯ รามคำแหง ... ช่วงบ่ายก็เขตวัดป่าด้านทิศตะวันตก และสรีดพงส์ (หรือเขื่อนพระร่วง) ... ส่วนวัดด้านตะวันออกนั้นผมเก็บไว้แวะก่อนกลับกรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้น

--- กลุ่มแรกคือวัดนอกกำแพงทางทิศใต้ เข้าทางถนนหลวงหมายเลข 1272 จะมีซอยแยกเข้าไป (ด้านเดียวกับตัวเมือง) ทางนี้จะผ่านโบราณสถานเล็กๆ หลายแห่งสลับกับทุ่งนา (ยิ่งถ้าเป็นตอนเช้า อากาศดีๆ ทางเส้นนี้น่าปั่นจักรยานเที่ยวมากเลยแหละครับ) ขับตามถนนไปเรื่อยๆ จนสุดถนนจะเป็นสามแยก ตรงแยกมีวัดใหญ่ที่สำคัญอยู่ 2 วัด คือ วัดเชตุพน กับ วัดเจดีย์สี่ห้อง ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ---

แผนผัง กลู่มโบราณสถานนอกกำแพงเมืองสุโขทัย ทางทิศ

วัดเชตุพนเป็นวัดใหญ่ มีคูน้ำล้อมรอบ วัดนี้เชื่อกันว่าเป็นวัดของพระสังฆราชประจำกรุงสุโขทัย สิ่งก่อสร้างที่เป็นประธานของวัดคือ มณฑปพระสี่อิริยาบถ พระปางลีลาด้านทิศตะวันออกสัดส่วนสวยงามมาก ถ้ายังสมบูรณ์น่าจะเป็นพระงามที่สุดองค์หนึ่งในสุโขทัย มีการนำเอาแผ่นหินชนวนขนาดใหญ่มาก่อสร้างเป็น ผนังวิหาร กำแพงแก้ว ประตู และเจดีย์ทิศ มีศิลาจารึกบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างวัด  ปัจจุบันอยู่ที่หน้าอุโบสถ วัดอินทาราม ที่กรุงเทพฯ

พระปางลีลา ที่วัดเชตุพน
พระปางลีลา ที่วัดเชตุพน
แนวกำแพงวิหาร ที่ทำด้วยหินชนวน
การทำงานของช่างภาพ ^_^

ตรงข้ามกับวัดเชตุพนเป็นวัดเจดีย์สี่ห้อง มีขนาดเล็กกว่าหน่อย แต่มีคูน้ำล้อมรอบเหมือนกัน ประธานของวัดเป็นเจดีย์ทรงกลมแบบลังกา ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ที่ฐานมีปูนปั้นรูป มนุษย์นาค สลับกับสิงห์ขี่ช้างหมอบ ประดับโดยรอบ คาดว่าสร้างให้เป็นผู้พิทักษ์เจดีย์ตามคติลังกา  เจดีย์องค์นี้ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ แต่เดิมเมื่อแรกพบอยู่ในสภาพพังทะลายเหลือแต่ฐาน พบกรุภายใน อ.เขียน ยิ้มศิริ เคยมุดเข้าไปดูภายใน พบภาพจิตรกรรม เป็นภาพลวดลายใบไม้ดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ เชื่อกันว่าสร้างเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับช้างทรงของพ่อขุนรามคำแหง ที่ทรงขับเข้าทำยุทธหัตถีกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด

เจดีย์ประทาน วัดเจดีย์สี่ห้อง
ลายปูนปั้น ที่ฐานเจดีย์

กลุ่มทางทิศเหนือนั้นผมเล่าไปแล้วในตอน สุขอมไท? ก็เลยจะขอพูดถึงเขตอรัญญิกทางทิศตะวันตกเลยก็แล้วกัน

--- เขตอรัญญิกของเมืองสุโขทัยมีวัดอยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เป็นวัดป่าแท้ๆบนเขา กับกลุ่มที่อยู่ในพื้นราบใกล้เมืองหน่อย ซึ่งเป็นวัดที่มีพระเถระผู้ใหญ่จากเมืองมอญและนครศรีธรรมราชมาจำพรรษา ---

แผนที่เขตอรัญญิก สุโขทัย

ถ้าเข้าจากทางหลวงหมายเลข 12 (เหมือนผม) วัดแรกที่จะเจอคือวัดสะพานหิน ตั้งอยู่บนยอดเขาเตี้ยๆ สูงประมาณ 200 เมตร  ชื่อวัดมาจากทางเดินขึ้นด้านหน้าที่ปูด้วยหินชนวน จากเชิงเขาไปจนถึงวัดบนยอดเขา ข้างบนมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรขนาดใหญ่ นักวิชาการเชื่อว่าพระองค์นี้คือ "พระอัฎฐารศ" ที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 2 (วัดศรีชุม) และที่นี่น่าจะเป็นที่ที่พ่อขุนรามคำแหงทรงขับช้างขึ้นมาทำบุญทุกๆวันพระใหญ่ (ขึ้นและแรม 15 ค่ำ) ในศิลาจารึกหลักที่ 1

ทางขึ้น วัดสะพานหิน
ทิวทัศน์จากบนวัดสะพานหิน
ทางเดินเท้าเชื่อมวัดต่างๆ บนสันเขา

นอกจากนี้ บนยอดเขายังพบพระพุทธรูปหินทราย สมัยทวาราวดี มีอายุเก่าแก่ก่อนสร้างเมืองสุโขทัย เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปหลายองค์ที่ท่านศรีศรัทธาฯ (แห่งวัดศรีชุม) นำกลับมา จากการธุดงค์ไปลังกา  ด้านหลังองค์พระอัฎฐารศมีทางเดินเล็กๆ คิดว่าน่าจะเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปยังวัดอื่นๆ ที่อยู่บนเขา

ถัดจากวัดสะพานหินเป็นวัดอรัญญิก และวัดเขาพระบาทน้อยที่พบรอยพระพุทธบาท ตามคติที่สุโขทัยรับมาจากลังกา เพื่อทำให้ภูเขาเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามแบบพุทธ แล้วยังพบอาคารขนาดเล็ก (พอดีสำหรับคนคนเดียว) ทำด้วยหินชนวนอยู่หลายแห่ง เชื่อว่าเป็นกุฏิสำหรับทำวิปัสสนาตามแนวปฏิบัติของพระสายวัดป่า

กุฏิแบบนี้พบได้ทั่วไปในกลุ่มวัดที่อยู่บนเขา ทั้งที่ วัดอรัญญิก วัดเขาพระบาทน้อย ... วัดเจดีย์งาม วัดหีบบน ไปจนถึงวัดหีบล่าง

เจดีย์ช้างล้อมวัดป่าแดง
เจดีย์สุดสวย ที่ วัดเจดีย์งาม
น่าเสียดายที่ผมและคณะ (ลูกสาวและเมีย) ใช้แรงในการขึ้นเขาหมดไปแล้ว ตั้งแต่ที่วัดสะพานหิน  จะชวนชาวคณะเดินตามทางบนสันเขาก็ไม่มีใครอนุมัติ เลยได้แต่เก็บภาพจากระยะไกลๆ มาฝากเท่านั้น แล้วสัญญากับตัวเองว่าถ้ามีครั้งหน้าจะไม่ยอมพลาด แน่ๆ

จากวัดสุดท้ายมีทางแยก ทางซ้ายมือจะไปกลุ่มวัดป่าที่อยู่บนพื้นราบและเข้าตัวเมืองเก่า ถ้าตรงไปเป็นทางไป สรีดภงส์ หรือ เขื่อนพระร่วง

ผมเลือกไปสรีดภงส์ก่อน เพราะเคยไปเมื่อสมัยมาทัศนศึกษา จำได้ว่าวิวที่นี่สวยดี ก็เลยอยากพาลูกไปเห็น  วิ่งรถไปสักพัก จะเห็นทางขึ้นด้านขวา เป็นสันเขื่อนเล็กๆ อยู่ก่อนถึงสถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดสุโขทัย

สรีดภงส์ แปลว่า "ทำนบ" เป็นส่วนหนึ่งของระบบจัดการน้ำของสุโขทัย มีลักษณะเป็นคันดินขนาดใหญ่อยู่ระหว่างเขา 2 ลูก ทำหน้าที่ชะลอน้ำป่าที่หลากมาจาก โซกพระร่วงด้านใน มากักใว้ก่อน คล้ายๆ กับพื้นที่แก้มลิง แล้วค่อยๆ ระบายลงคลองเสาหอที่ไหลไปต่อเข้าคูเมือง

ทิวทัศน์ที่สรีดภงส์
สรีดภงส์ ยามเย็น

ปัจจุบันกรมชลประทานได้ปรับปรุงจนเป็นเขื่อนขนาดย่อมๆ บรรยากาศดีน่าเอาข้าวเหนียวไก่ย่างไปนั่งกินพลาง ตกปลาไปพลาง มากๆ

จากสรีดภงส์ ผมย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อไปดูวัดอรัญญิกที่อยู่บนพื้นราบ และกลับเข้าเมืองทางประตูเมืองด้านทิศตะวันตก (ประตูต้นอ้อ)

โบราณสถานกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยวัดหลายวัด ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน แต่ละวัดก็มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่และน่าสนใจ เช่น ที่วัดมังกร มีระเบียงแก้วที่ทำด้วยเครื่องสังคโลก  วัดตึกมีมณฑทปประดับด้วยปูนปั้นเรื่องพุทธประวัติ วัดที่ใหญ่และสำคัญที่สุดน่าจะเป็น วัดป่ามะม่วง

วัดมังกร
เทวาลัยเกษตรพิมาน

ในสมัยที่สุโขทัยมีปัญหากับอยุธยา พระเจ้าอู่ทองขึ้นมายึดเมืองพิษณุโลก ทำให้พระยาลิไทจำต้องสละราชบัลลังก์สุโขทัย ออกผนวชที่วัดป่ามะม่วง  โดยอัญเชิญ พระมหาสามีสังฆราช จากเมืองพัน (เมืองมอญ) มาเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นก็คงจะเสด็จมาจำพรรษาที่วัดนี้ระยะหนึ่ง ก่อนจะดำเนินการเจรจาต่อรองขอบิณฑบาตเมืองพิษณุโลกคืน โดยจะยกเมืองสุโขทัยให้พระขนิษฐาของพระองค์ ซึ่งเป็นมเหสีของขุนหลวงพะงั่ว (อุปราชอยุธยาสมัยนั้น) เป็นการแลกเปลี่ยน

ส่วนพระมหาสามีสังฆราช ซึ่งน่าจะเป็นพระสายวัดป่า ก็ให้จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีโทล ใกล้ๆ ข้างๆ วัดป่ามะม่วงเพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธเถรวาทต่อไป

นอกจากนี้ภายในวัดป่ามะม่วงยังมีหอเทวาลัยอยู่แห่งหนึ่ง ชื่อ "เทวาลัยเกษตรพิมาน" ภายในเคยประดิษฐานเทวรูปสำริด รูปพระอิศวรและพระนารายณ์ ขนาดใหญ่และงดงามมาก ตามแบบศิลปะสุโขทัยแท้ๆ ปัจจุบันเทวรูปดังกล่าวเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานฯ พระนคร

ผมคิดว่าประติมากรรมสำริดของสุโขทัย เป็นลักษณะที่โดดเด่น และสำคัญที่สุดในศิลปะสุโขทัย ความงดงามของทั้งพระพุทธรูปและเทวรูปสมัยสุโขทัยนี่แหละ ที่ทำให้หลายคนยกย่องให้ศิลปะสุโขทัยเป็นยุคทองของศิลปะไทย

ถ้าใครอยากดื่มด่ำกับศิลปะสุโขทัยอีกสักนิด ผมแนะนำให้ไปดูเพิ่ม ที่วัดตระพังทองหลาง ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเมือง

--- ส่วนใหญ่กลุ่มวัดด้านตะวันออกนี้ เป็นวัดยุคหลังๆ สมัยที่สุโขทัยโดนครอบงำจากอยุธยาแล้ว แต่ก็มีวัดที่สวยงามและน่าสนใจหลายวัด เช่น วัดช้างล้อม วัดเจดีย์สูง และวัดตระพังทองหลาง  แต่เนื่องจากบริเวณนี้มีถนนเชื่อมไปยังตัวจังหวัด มีร้านค้า ร้านกาแฟและโรงแรมเกิดขึ้นเยอะ ทำให้หาทางเขาโบราณสถานค่อนข้างยาก ... ทางเข้าวัดช้างล้อมไม่มีป้าย ... วัดเจดีย์สูงก็อยู่ข้างหลังสถานีอนามัย ... ส่วนทางเข้าวัดตระพังทองหลาง เป็นซอยเล็กๆ ปากซอยเป็นร้านขายของเก่า (วงศ์พาณิชย์) ---

สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ มณฑปที่วัดตระพังทองหลาง รอบๆ มณฑป ประดับด้วยปูนปั้นพุทธประวัติ 4 ตอน ใน "อัษฏมหาปาฏิหาริย์" หรือเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติแปดประการ  ด้านตะวันออกคือด้านหน้าของมณฑปที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งหมายถึงตอนตรัสรู้  ด้านทิศใต้เป็นตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากที่ทรงขึ้นไปโปรดมารดาบนสวรรค์  ด้านทิศตะวันตกเป็นตอนแสดง "ยมกปาฏิหาริย์" (เนรมิตกายให้เป็นหลายองค์) เพื่อลดทิฐิของคนกลุ่มหนึ่งที่เมืองสาวัตถี  ส่วนด้านเหนือเป็นตอนปราบช้างธนาปาลหัตถีนาฬาคีรีที่เมืองราชคฤห์

มณฑปวัดตระพังทองหลาง
ภาพปูนปั้นในคูหาด้านทิศใต้ ปัจจุบันเสียหายมากแล้ว

ปัจจุบันภาพปูนปั้นเสียหายไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังพอเห็นเค้าโครงความงาม ได้บ้าง ... สมัยก่อนคงงดงามมาก อ. ศิลป์ พีระศรี เคยกล่าวไว้ในบทความของท่านว่า

--- ศิลปะชิ้นเอก ซึ่งประทับใจเรายิ่งกว่า ก็คือ พระพุทธรูปนูนสูงปางลีลา ในคูหาของมณฑป ณ วัดตระพังทองหลาง เมืองสุโขทัย ตามความจริง เฉพาะแต่ศิลปกรรมชิ้นนี้ชิ้นเดียวเท่านั้น ก็เพียงพอที่จะจารึกคุณค่าของศิลปของอาณาจักรสุโขทัยลงไว้ด้วยอักษรทอง ---

วัดเจดีย์สูง ฝีมือลูกสาว ครับ

เป็นอันว่าครบถ้วนตามที่ตั้งใจไว้แล้ว (เท่าที่เวลาจะอำนวย) หวังว่าบทความเรื่อง "สุโขไกด์" นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวสุโขทัย บ้าง หรือเชิญชวนให้ใครที่ยังไม่มีแผน ได้นึกอยากไปบ้าง เท่านี้ ผมก็พอใจแล้ว

ผมเองก็หวังว่า จะมีโอกาสไปอีกสักหลายๆ ครั้ง ยังมีอีกหลายที่ ที่พลาดไป ไม่ว่าจะเป็น เจดีย์ชางรอบที่กำแพงเพชร เขตวัดป่าที่ศรีสัชนาลัย จนถึงทางเดินบนเขาในเขตวัดอรัญญิกที่สุโขทัย ... ฯลฯ แต่ครั้งหน้า ผมคงจะไม่หาข้อมูลเจาะลึกมาเขียนเป็น blog แบบนี้อีกแล้ว จะค่อยๆ เที่ยว ค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศของเมืองเก่าให้เต็มที่เลยหละครับ
....
...

..

อ๊ะ ... ยังไม่จบ ... ตอนหน้าจะเอาของกินและของฝากจากสุโขทัย มาฝากเป็นการส่งท้าย ... นะครับ 

Share: